แบตเตอรี่รถยนต์ ข้อมูลGSแบตเตอรี่
ReadyPlanet.com


ข้อมูลGSแบตเตอรี่




ถ้ามีไฟเตือน รูปแบตเตอรี่บนหน้าปัทม์รถ ควรทำอย่างไร ?
  
โดยปกติแล้ว เราจะเห็น เจ้าสัญญาณเตือนรูปแบตเตอรี่บนหน้าปัทม์รถยนต์ เมื่อบิดกุญแจในจังหวะแรก ไฟเตือนจะต้องสว่างนิ่งและเมื่อเครื่องยนต์ถูกสตาร์ท และทำงานแล้ว ไฟเตือนจะดับลงตลอดการขับ หากเครื่องยนต์ยังทำงานอยู่แล้วมีไฟเตือนรูปแบตเตอรี่สว่างขึ้น ถือเป็นสัญญาณอันตรายอย่างร้ายแรง ต้องอธิบายก่อนว่าการที่มีไฟเตือนรูปแบตเตอรี่ขึ้นนั้น มิได้เป็นการเตือนว่าแบตเตอรี่ไฟหมดหรือเต็ม แต่เป็นการแสดงถึงความผิดปกติของระบบไดชาร์จ ทำให้เครื่องยนต์และอุปกรณ์ไฟฟ้าต้องใช้ไฟจากแบตเตอรี่อย่างเดียว ทีนี้เรามาดูกันว่าถ้ามี่ไฟเตือนขึ้นควรทำอย่างไร อันดับแรกให้สันนิษฐานไว้ก่อน 2 กรณี ดังนี้

1. ไดชาร์จเสียหรือระบบการประจุไฟฟ้าเสีย

2. สายพานไดชาร์จขาด ให้รีบจอดรถในที่ปลอดภัยเพื่อลงมาตรวจดูสายพานเป็นอย่างแรก ถ้าสานพานไม่ขาด แสดงว่าระบบไดชาร์จเสีย แต่ยังมีไฟฟ้าสำรองในแบตเตอรี่อยู่ สามารถขับต่อไปได้ในระยะทางสั้นๆ 5-10 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับขนาดของแบตเตอรี่และเครื่องยนต์ ดังนั้นจึงควรปิดอุปกรณ์ที่ต้องใช้ไฟฟ้าลงทั้งหมด เช่น แอร์ เครื่องเสียงฯลฯ เพื่อให้มีการ ใช้ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ช้าและน้อยลง เพื่อที่จะนำพารถไปถึงศูนย์บริการที่ใกล้ที่สุดได้ เพื่อทำการซ่อมแซม แต่ทางที่ดีควรหมั่นตรวจสภาพของไดชาร์จ สายพาน ให้อยู่ในสภาพปกติทุกครั้งก่อนเดินทาง และเข้าตรวจเช็คที่ศูนย์บริการตามระยะเวลาที่คู่มือรถกำหนดไว้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อการขับขี่อย่างมั่นใจตลอดทางนะครับ

การถอดแบตเตอรี่อย่างถูกวิธี และปลอดภัย   การเปลี่ยนแบตเตอรี่ เป็นสิ่งที่เราไม่ค่อยจะได้ทำบ่อยนักเพราะแบตเตอรี่ 1 ลูกหากมีการดูแลรักษาที่ดีจะสามารถใช้ได้นาน 2-3ปีเลยทีเดียว การเปลี่ยนแบตเตอรี่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยากอะไร แต่ก็ต้องทำให้ถูกวิธีเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ระบบควบคุม และอุปกรณ์ต่างๆซึ่งปัจจุบันล้วนเป็นระบบคอมพิวเตอร์ทั้งสิ้น หากมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่เอง ควรทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

1. ต้องดับเครื่องก่อนเปลี่ยนแบตเตอรี่ทุกครั้ง หรือดึงกุญแจออกก่อน

2. ในการถอดแบตเตอรี่ ต้องถอดขั้วลบ (-) ออกก่อนเสมอ เพื่อป้องกัน การลัดวงจร

3. และเมื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่เข้าไป ต้องใส่ขั้วบวก (+) ก่อนเสมอ

ถ้าจะให้จำง่ายๆก็คือ “ถอดลบ (-) ใส่ (+)” เพื่อป้องกันการลัดวงจรและก่อนให้เกิดความเสียหายแก่รถของคุณ


การต่อพ่วงแบตเตอรี่ฉุกเฉิน  ในบางครั้งเราหรือเพื่อนร่วมทาง อาจจะเกิดเหตุการณ์ที่เรียกว่าไฟหมด อาจจะเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น ลืมปิดไฟหน้า ลืมปิดอุปกรณ์ใช้ไฟฟ้า จนไฟหมด หรือแบตเตอรี่เสื่อม อาจจะต้องมีการต่อพ่วงแบตเตอรี่จากรถคันอื่น เราจึงจำเป็นจะต้องเรียนรู้การต่อพ่วงอย่างถูกวิธีดังนี้

1. ดูประเภทรถที่เหมาะสมกัน ให้ดูจากขนาดแบตเตอรี่เป็นหลัก คือรถที่จะนำมาต่อพ่วงต้องมีขนาดเท่าใกล้เคียงกันหรือใหญ่กว่ารถที่ไฟหมด ยกตัวอย่างเช่น ถ้ารถที่ไฟหมดเป็นรถกระบะคันใหญ่ จะนำรถเก๋งขนาดเล็กมาต่อพวงไม่ได้เพราะจะสตาร์ทเครื่องไม่ติด เนื่องจากขนาดของไดสตาร์ทของรถกระบะมีขนาดใหญ่ต้องการกำลังไฟมากกว่านั้นเอง

2. สายที่นำมาใช้ต่อพ่วงต้องมีขนาดใหญ่พอสมควร และไม่ยาวจนเกินไป จำนวน 2 เส้น เพื่อที่จะสามารถนำพาประจุไฟฟ้ามาใช้ในการสตาร์ทได้อย่างเต็มที่ เราจะสังเกตได้จากอุณหภูมิที่ตัวสายพ่วงขณะสตาร์ทจะร้อนมาก ถ้าใช้สายเส้นเล็กอาจจะทำให้สตาร์ทไม่ติดและสายไฟอาจละลายขาดได้เลยทีเดียว ควรมีสีที่ต่างกัน สีละเส้นพื่อป้องกันการต่อสลับขั้ว ที่นิยมใช้ คือ แดง(+) ดำ(-)

3. นำรถมาจอดคู่กัน ให้ด้านที่มีแบตเตอรี่หันเข้าหากันเพื่อสะดวกในการต่อพ่วง และควรจอดในลักษณะที่ปลอดภัยด้วย

4. การต่อขั้วบวก(+) สายพ่วงเส้นสีแดงเข้ากับขั้วบวกของแบตเตอรี่ลูกที่ไฟหมด อีกข้างหนึ่งของสายต่อ กับขั้วบวกของแบตเตอรี่ลูกที่มีไฟ

5. การต่อขั้วลบ(-) สายพ่วงเส้นสีดำ เข้ากับขั้วลบ(-) ของแบตเตอรี่ลูกที่มีไฟ อีกข้างหนึ่งของสายพ่วงต่อเข้ากับโครงรถหรือเสื้อสูบเครื่องยนต์ของคันที่ไฟหมด เพื่อป้องกันการเกิดประกายไฟ

6. เมื่อสตาร์ทรถยนต์คันที่ไฟหมด ติดแล้ว จึงค่อยถอดสายพ่วงแบตเตอรี่ทวนตามลำดับที่กล่าวมาข้างต้น

จะเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหญ่ แอมป์สูงดีไหม  หากแบตเตอรี่หมดสภาพ หรือถึงเวลาต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่ จะเปลี่ยนเป็นแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นดีไหม ถ้าใช้แอมป์สูงขึ้นไดชาร์จจะพังหรือเปล่า เป็นคำถามที่หลายคนหนักใจเพราะกังวลว่าจะทำให้เครื่องและระบบไฟฟ้าเสียหาย แต่ที่จริงแล้วการเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้ลูกใหญ่ขึ้น แอมป์สูงขึ้น จะทำให้รถยนต์ของคุณมีกำลังไฟฟ้าสำรองมากขึ้น มีกำลังไฟสตาร์ทแรงขึ้น และทำให้ไดชาร์จทำงานหนักน้อยลง ไม่พังง่ายฉะนั้นเมื่อจำเป็นต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ ควรคำนึงว่าหากต้องเพิ่มเงินไม่กี่ร้อยบาท แต่ได้สิ่งที่คุ้มค่ากว่ากลับคืนมา แต่ต้องดูพื้นที่ด้วยว่าสามารถวางแบตเตอรี่ลูกที่ใหญ่กว่าได้หรือไม่


รายละเอียดการรับประกันแบตเตอรี่


ทางบริษัทฯ จะรับประกันคุณภาพแบตเตอรี่ ภายใต้เงื่อนไขดังต่อไปนี้  

   1. ความเสียหายที่เกิดจากขบวนการผลิต

       1.1. แบตเตอรี่รับประกัน 12  เดือน หรือ 20,000 กิโลเมตร (โดยนับจากวันที่ซื้อแบตเตอรี่) แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน

หมายเหตุ :  สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลเท่านั้น มิใช่เพื่อรับจ้างและการพาณิชย์

       1.2. ในกรณีแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ หรือใช้งานไม่ได้ ก่อนสิ้นระยะเวลารับประกัน โดยบริษัทฯ ได้พิจารณาชดเชยแบตเตอรี่           

             ใหม่ให้แก่ลูกค้า โดยบริษัทฯ จะทำการชดเชยสินค้าเพียง 1 ครั้ง หรือ 1 ลูกเท่านั้น (โดยนับระยะเวลาประกันต่อเนื่อง    

             จากระยะเวลารับประกันที่เหลือของแบตเตอรี่ลูกที่นำมาเคลม)

   2. ข้อยกเว้นในการรับประกันแบตเตอรี่

      2.1. พ้นกำหนดระยะเวลารับประกัน

      2.2. สามารถชาร์จไฟคืนได้

      2.3. ไม่มีใบรับประกัน, ไม่กรอกรายละเอียดที่ครบถ้วน ชัดเจน และมีการแก้ไขดัดแปลงข้อความที่ระบุไว้, ไม่ระบุวันที่ขาย/

            ติดตั้ง

      2.4. สติกเกอร์หลุดหาย, ฉีกขาด, และลอกไม่ถูกต้อง (ขอให้ระบุรุ่น, ยี่ห้อรถที่ติดตั้ง  และอายุการใช้งานรถโดยประมาณ)

      2.5. ความเสียหายที่เกิดจากการใช้งานผิดประเภท หรือปฏิบัติไม่ถูกต้อง

      2.6. แบตเตอรี่แตก, รั่ว, ซึม, การตกกระแทก, ระเบิด, การทุบและกระแทกจากภายนอก

      2.7. การต่อแบตเตอรี่ผิดขั้ว

      2.8. เกิดความบกพร่องของตัวรถยนต์เอง เช่น ระบบไฟรถยนต์รั่ว, ไฟลัดวงจร

      2.9. ระบบไดชาร์จ และไดสตาร์ทของรถยนต์เกิดความบกพร่องซึ่งไม่สามารถชาร์จไฟได้ และสตาร์ทได้

      2.10. การอัดประจุไฟมากเกินไป (Over Charge) และขาดการประจุไฟเพิ่มเมื่อแบตหมด (Over Discharge)

       2.11. ดูแลระดับกรดไม่ดีจนระดับน้ำกลั่นต่ำกว่าระดับต่ำสุด และเกินกว่าระดับสูงสุดที่กำหนดไว้

       2.12. เติมสารอื่นใดที่ไม่ใช่น้ำกลั่นบริสุทธิ์ หรือน้ำกรดที่ใช้กับแบตเตอรี่

       2.13. ขาดการบำรุงรักษา และขาดการทำความสะอาด ทำให้จุกอุดตันและก่อให้เกิดปัญหากับแบตเตอรี่

       2.14. สาเหตุอื่นๆ ที่เกิดจากการต่อพ่วงแบตเตอรี่ กับอุปกรณ์ภายนอก และนำมาซื่งความเสียหายต่อแบตเตอรี่

       2.15. การเกิดอุบัติเหตุ, ภัยธรรมชาติ, ความประมาทเลินเล่อ, ความบกพร่องจากผู้ใช้ หรือช่างที่ขาดความชำนาญ

       2.16. แบตเตอรี่ถูกนำไปใช้งานผิดวัตถุประสงค์ นอกเหนือจากการสตาร์ทรถยนต์

       2.17. มีการแก้ไขดัดแปลง ซ่อมแซม ต่อเดิมอุปกรณ์ใดๆ บนแบตเตอรี่ให้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

       2.18. มีการพลิกคว่ำแบตเตอรี่

       2.19. กรณีเปลี่ยนแบตเตอรี่ไปใส่ในรถที่อยู่นอกเหนือจากที่ระบุในใบรับประกัน



ผู้ตั้งกระทู้ Admin :: วันที่ลงประกาศ 2016-01-02 10:30:00


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.