ฟังคำตอบจากคุณหมอญี่ปุ่น! ใส่ถุงเท้านอนตอนกลางคืนไม่ดีต่อสุขภาพจริงไหม?

 เข้าสู่ช่วงฤดูหนาวที่อากาศหนาวมากทั้งตอนกลางวันและกลางคืน คนญี่ปุ่นจำนวนมากใส่ถุงเท้าขณะที่นอนหลับตอนกลางคืน เพื่อป้องกันไม่ให้เท้าเย็นจนเป็นสาเหตุให้เป็นไข้หวัด แม้ว่าการใส่ถุงเท้าจะทำให้เท้าอุ่นขึ้นและช่วยรักษาความชุ่มชื่นให้แก่เท้า แต่จริงๆ แล้วคุณหมอชาวญี่ปุ่น (Dr. Osamu Kuwamitsu) บอกว่าการใส่ถุงเท้านอนไม่ดีต่อสุขภาพ มาฟังเหตุผลที่คุณหมอญี่ปุ่นไม่แนะนำให้ใส่ถุงเท้าเข้านอนกันค่ะ

เหตุผลที่ไม่ควรใส่ถุงเท้าเข้านอน

คนเราจะนอนหลับได้สนิทเมื่ออุณหภูมิของร่างกายค่อยๆ ลดลงในตอนกลางคืน การที่อุณหภูมิของร่างกายลดลงจะทำให้ระบบประสาทพาราซิมพาเทติกซึ่งเป็นระบบประสาทที่เกี่ยวกับความผ่อนคลายทำงาน ส่งผลให้คนเรานอนหลับสนิท โดยปกติร่างกายคนเราจะกระจายความร้อนออกทางเท้าและทำให้อุณหภูมิของร่างกายลดลง การใส่ถุงเท้าในตอนนอนกลางคืนจะทำให้อุณหภูมิของร่างกายไม่ถูกกระจายออกทางเท้า ส่งผลให้นอนหลับได้ไม่สนิท ทำให้ตื่นนอนขึ้นมาอย่างไม่สดชื่นและรู้สึกเหนื่อยล้า ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้ ทั้งนี้การใส่ถุงเท้าไว้ยังทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวเท้าได้อย่างอิสระและทำให้การไหลเวียนเลือดไปยังบริเวณเท้าไม่ดี นอกจากนี้ พบว่าการใส่ถุงเท้าให้เด็กทารกในขณะที่นอนหลับจะมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากโรคไหลตาย (Sudden Infant Death Syndrome) ได้ค่อนข้างสูง

เมื่อรู้สึกว่าเท้าเย็นควรทำอย่างไร

ไม่ว่าจะเป็นคนญี่ปุ่นหรือเป็นนักท่องเที่ยวที่มาเยือนญี่ปุ่นในช่วงฤดูหนาว หากรู้สึกกลัวว่าเท้าเย็นแล้วจะทำให้ไม่สบาย คุณหมอแนะนำให้ใส่ถุงเท้าได้จนถึงเวลาเข้านอน และเมื่อเข้านอนอยู่ใต้ผ้าห่มเรียบร้อยแล้วก็ให้ถอดถุงเท้าออกเพื่อจะได้หลับสบายและเพื่อความปลอดภัยสำหรับเด็กทารก ในทำนองเดียวกันหากใช้ผ้าห่มไฟฟ้าก็ควรปิดสวิตช์ก่อนนอน เพื่อให้ร่างกายปรับอุณหภูมิให้ลดลงตามธรรมชาติ
 

ในระหว่างการนอนหลับอยู่ภายใต้ผ้าห่มแสนอบอุ่นหากคนเรารู้สึกร้อนก็จะมีการเคลื่อนไหวเพื่อเอาเท้าออกนอกผ้าห่มตามธรรมชาติ ซึ่งจะทำให้ร่างกายเย็นลงจากการระบายความร้อนผ่านเท้า ผู้ใหญ่ใส่ถุงเท้าเข้านอนหากรู้สึกร้อนในขณะที่นอนหลับพวกเขาสามารถถอดถุงเท้าออกเองได้ แต่สำหรับเด็กทารกแรกเกิดถึง 1 ขวบ แม้ว่ารู้สึกร้อนแต่พวกเขาก็ไม่สามารถถอดถุงเท้าได้เองและมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต หากใส่ถุงเท้าให้ลูกน้อยก่อนนอนก็ระวังกันไว้สักนิดค่ะ

ขอขอบคุณ:  ผู้หญิงผู้หญิง