BT222 – เครื่องทดสอบแบตเตอรี่และวิเคราะห์ระบบสตาร์ท การชาร์ทไฟ
สำคัญ:
1. สำหรับทดสอบแบตเตอรี่ 12 โวลท์ ที่มีความจุในช่วงต่อไปนี้
SAE: 200-1200 CCA
DIN: 110-670 CCA
IEC: 130-790 CCA
EN: 185-1125 CCA
CA(MCA): 240-1440 CA(MCA)
2. ช่วงการทำงาน 0 °C ถึง 50 °Cหรืออุณหภูมิปกติ
คำเตือน:
1. การทำงานกับแบตเตอรี่กรด-ตะกั่ว เป็นอันตราย แบตเตอรี่สามารถปล่อยกาซที่ทำให้เกิดการระเบิดได้ในระหว่างการทดสอบ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ถ้ามีข้อสงสัยหรือไม่แน่ใจประการใด ก่อนใช้เครื่องทดสอบควรอ่านคู่มือการใช้เล่มนี้โดยละเอียด
2. เพื่อลดความเสี่ยงในการระเบิดของแบตเตอรี่ ควรทำตามข้อแนะนำการใช้จากบริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่ และผู้ผลิตเครื่องมือทดสอบ โปรดดูเครื่องหมายความปลอดภัยที่มากับแบตเตอรี่
3. ไม่ควรนำเครื่องทดสอบแบตฯ ตากฝนหรือทำให้เปียก
ข้อควรระวังด้านความปลอดภัยส่วนบุคคล:
1. ควรมีคนอยู่ใกล้ในระยะที่คุณสามารถเรียกขอความช่วยเหลือได้ เมื่อมีการทำงานกับแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรด
2. ควรมีน้ำสะอาดและสบู่พอเพียงอยู่บริเวณใกล้ๆ เมื่อเกิดกรณีการสัมผัสกับน้ำกรดจากแบตเตอรี่ที่ผิวหนังหรือตา
3. ควรสวมแว่นป้องกันตาและชุดทำงานที่เหมาะสม
4. ถ้าเกิดการสัมผัสกับน้ำกรดถูกผิวหนังหรือเสื้อผ้า ให้ล้างออกด้วยสบู่และน้ำทันที ถ้าน้ำกรดกระเด็นเข้าตาให้ล้างตาด้วยน้ำที่ไหลจากก๊อกอย่างน้อย 10 นาทีและรีบไปพบแพทย์
5. ห้ามสูบบุหรี่ หรือทำให้เกิดประกายไฟในบริเวณที่ทำงานกับแบตเตอรี่หรือเครื่องยนต์
6. ระวังอย่าทำเครื่องมือโลหะหล่นไปกระทบแบตเตอรี่ ซึ่งอาจทำให้เกิดประกายไฟ หรือทำให้ไฟลัดวงจรเป็นสาเหตุให้เกิดการระเบิดได้
7. ควรถอดเครื่องประดับโลหะ เช่นแหวน กำไล หรือนาฬิกา ออกก่อนทำงานกับแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรด เนื่องจากอาจทำให้เกิดกระไฟลัดวงจร ทำให้เกิดความร้อนสูงทำให้ผิวหนังบาดเจ็บได้
การเตรียมตัวก่อนการทดสอบ:
1. ตรวจสอบให้แน่ใจว่ารอบๆ บริเวณทดสอบมีอากาศถ่ายเทได้สะดวก
2. ทำความสะอาดขั่วของแบตเตอรี่ที่จะทดสอบให้ดี ระวังเศษสิ่งสกปรกที่เกาะขั่วแบตฯจะเข้าตา
3. ตรวจสอบแบตเตอรี่ที่ทำการทดสอบว่าอยู่ในสภาพไม่ผุ แตกหรือมีรอยร้าว ถ้ามีสภาพดังกล่าวไม่ควรทดสอบ
4. ถ้าแบตเตอรี่ที่จะทดสอบเป็นชนิดเติมน้ำกลั่น ก่อนทดสอบให้เติมน้ำกลั่นแต่ละช่องเซลให้เต็มก่อน เพื่อเป็นการไล่กาซออกจากเซลแบตเตอรี่
5. ถ้าจำเป็นต้องถอดแบตเตอรี่ออกจากตัวรถเพื่อทดสอบ อันดับแรกต้องถอดสายกราวออกจากแบตเตอรี่ และปิดอุปกรณ์การใช้ไฟในรถทุกชนิด
วิธีการใช้งาน:
การทดสอบแบตเตอรี่ – BT111/ BT222 (สำหรับ แบตเตอรี่ 12 โวล์ท)
1. ก่อนเริ่มการทดสอบแบตฯในรถ ดึงกุญแจออก ปิดอุปกรณ์ (แอร์ วิทยุ ไฟ) ทุกชนิดในรถ ปิดประตู และฝากระโปรงหลัง
** ถ้ารถเพิ่งวิ่ง ก่อนการทดสอบอาจมีประจุไฟฟ้าหลงเหลือที่ขั่วแบตฯ (surface charge) ให้เปิดไฟหน้าทิ้งไว้ประมาณ 30 วินาที เพื่อไล่ประจุที่ขั้ว แล้วทิ้งระยะประมาณ 1 นาทีก่อนเริ่มการทดสอบ
2. แน่ใจว่าขั่วแบตฯ สะอาด ถ้าจำเป็น ทำความสะอาดขั้วแบตฯ ด้วยแปรงลวด จากนั้น คีบสายสีดำกับขั้วลบ และคีบสายสีแดงกับขั้วบวก
3. จอภาพ LED จะสว่างขึ้นและแสดงค่าโวลท์ของแบตฯ กด ENTER เพื่อไปขั้นต่อไป **ถ้าหน้าจอแสดง HI/ Lo/--- หรือว่างเปล่า ให้ตรวจสาเหต์ที่หมวด การแก้ปัญหา (TROUBLESHOOTING)
4. กดปุ่ม ▲/▼เพื่อเลือกชนิดของแบตเตอรี่
SLI หรือ SEAL
SLI คือ แบตเตอรี่ชนิดเติมน้ำกลั่น
SEAL คือ แบตเตอรี่ แห้ง หรือ MF (Maintenance Free)
5. กด ENTER เพื่อไปขั้นตอนต่อไป
6. กดปุ่ม ▲/▼เพื่อเลือกมาตรฐานของแบตเตอรี่ SAE, din, IEC, Enหรือ CA
7. เลือก SAE (มาตรฐานอเมริกา) แล้วกด ENTER
8. กดปุ่ม ▲/▼ขึ้นลงเพื่อใส่ค่าความจุของแบตเตอรี่ หรือ CCA
SAE: 200-1200 CCA ● DIN: 110-670 CCA ● IEC: 130-790 CCA ● EN: 185-1125 CCA ● CA(MCA): 240-1440 CA(MCA)
** ค่า CCA เริ่มต้น จะระบุอยู่บนตัวแบตเตอรี่ หรือถ้าไม่ระบุ ให้ดูจากตารางเทียบค่า
กด ENTER เพื่อเริ่มทดสอบ
9. การทดสอบจะใช้เวลาไม่เกิน 1 วินาที
10. ถ้าหน้าจอแสดง CHA- (หมายถึงเครื่องถามว่า แบตเตอรรี่ได้รับการชาร์ทไฟฟ้าหรือยัง) ให้กด ENTER และเลือกปุ่ม ▲/▼เพื่อตอบ yESหรือ no แล้วกด ENTER เพื่อไปขั้นต่อไป (ในขั้นนี้ เครื่องจะตรวจสภาพของแบตเตอรี่ และจะตัดสินว่าแสดงผลขั้นตอนต่อไปหรือไม่)
11. เมื่อการทดสอบสิ้นสุด หน้าจอ LED จะแสดงค่า CCA ที่แท้จริงของแบตเตอรี่ที่ทำการทดสอบ และแสดงไฟสีต่างๆ ขึ้น
|
ไฟสีเขียว
แบตเตอรี่อยู่ในสภาพดี และสามารถเก็บประจุไฟฟ้าได้ดี
|
|
ไฟสีเขียว และ ไฟสีเหลืองติดพร้อมกัน
แบตเตอรี่อยู่ในสภาพดี และสามารถเก็บประจุไฟฟ้าได้ดีแต่ไฟอ่อนจำเป็นต้องชาร์ท
|
|
ไฟสีเหลือง และ ไฟสีแดง ติดพร้อมกัน
แบตฯ ไฟหมด ไม่สามารถตรวจสุขภาพของแบตฯ ได้ ต้องทำการชาร์ทแบตก่อน
ให้ทำการชาร์ทแบตฯ ให้เต็มและทดสอบอีกครั้ง ถ้ายังแสดงไฟเหมือนเดิม แสดงว่าแบตเสื่อม ต้องเปลี่ยนแบตลูกใหม่
|
|
ไฟสีแดง
แบตเตอรี่ไม่สามารถเก็บประจุไฟฟ้าได้แล้ว ต้องเปลี่ยนแบตลูกใหม่ทันที
|
|
หน้าจอแสดง Err มีไฟสีแดงติด
หนีบขั่วแบตไม่แน่นพอ ตรวจสอบการหนีบที่ขั่วทั้งสองอีกครั้ง หรือ
แบตเตอรี่ที่นำมาทดสอบมีค่า CCA สูงกว่าความสามารถสูงสุดของเครื่อง
|
12. กด ENTER เพื่อกับไปที่ขั้นตอนที่ 3 หรือถอดสายหนีบขั้วออก เพื่อสิ้นสุดการทดสอบ
13. ค่าต่างๆ ที่เลือก เช่น ชนิดของแบตฯ ค่า CCA เริ่มต้น และค่า CCA ที่วัดได้ จะถูกเก็บไว้ในเครื่องเมื่อมีการใช้งานครั้งต่อไป
วิธีการใช้งาน:
การทดสอบระบบ (SYSTEM TEST)– สำหรับรุ่น BT222 (ทดสอบกับ แบตเตอรี่ 12 โวล์ท)
การทดสอบระบบสตาร์ท
1. จอภาพ LED จะสว่างขึ้นและแสดงค่าโวลท์ของแบตฯ กด ENTER เพื่อไปขั้นต่อไป **ถ้าหน้าจอแสดง HI/ Lo/--- หรือว่างเปล่า ให้ตรวจสาเหต์ที่หมวด การแก้ปัญหา (TROUBLESHOOTING)
2. กดปุ่ม ▲/▼เพื่อเลือก system test: SyStแล้วกด ENTER
3. ปิดสวิทต์การใช้งานในรถให้หมด เช่น ไฟหน้า แอร์ วิทยุ ฯลฯ อย่าเพิ่งสตาร์ทเครื่อง
4. หน้าจอจะแสดง CrAnให้ กด ENTER หน้าจอจะแสดงค่าแรงดันไฟต่ำสุดของแบตเตอรี่
5. ให้สตาร์ทเครื่อง อ่านค่าแรงดันไฟ หลังจากการสตาร์ท
A: แสดงไฟสีเขียว = ระบบสตาร์ทปกติ
B: แสดงไฟสีเหลือง = ระบบสตาร์ทอาจมีปัญหา ให้ดูบริเวณการขั้วสายไฟต่างๆ ที่ไดสตาร์ทอาจหลวม
C:แสดงไฟสีแดง, หน้าจอว่างเปล่า หรือหน้าจอแสดงค่าแรงดันไฟของแบตเตอรี่ = ระบบสตาร์ทมีปัญหา ให้ดูการเชื่อมต่อขั้วต่าง ๆ ของไดสตาร์ททันที
การทดสอบระบบชาร์ทไฟ
1. หลังจากทารทดสอบระบบสตาร์ท ให้กด ENTER ไปสู่การทดสอบระบบชาร์ท หน้าจอจะแสดง CHArให้กด ENTER เพื่ออ่านค่าแรงดันไฟในขณะนั้น
2. เหยียบคันเร่งให้รอบอยู่ประมาณ 1200 – 1500 rpm อ่านค่าแรงดันไฟฟ้าที่หน้าจอ
A: แสดงไฟสีเขียว = ไดชาร์ททำงานปกติ
B: แสดงไฟสีแดง = แรงดันไฟสูงเกิน ให้ดู regulator
C: แสดงไฟสีเหลือง = แรงดันไฟต่ำไป ให้ดูข้อต่อขั้วต่างๆ สายไฟ และไดชาร์ทอาจมีปัญหา
3. หลังจากนั้นให้เปิดไฟสูง เปิดวิทยุ เปิดพัดลมแอร์ให้แรงสุด ไม่ต้องเปิดแอร์ แล้วดูไฟที่เครื่อง
A: แสดงไฟสีเขียว = ไดชาร์ททำงานปกติ
B: แสดงไฟสีแดง = แรงดันไฟสูงเกิน ให้ดู regulator
C: แสดงไฟสีเหลือง = แรงดันไฟต่ำไป ให้ดูข้อต่อขั้วต่างๆ สายไฟ และไดชาร์ทอาจมีปัญหา
4. ดับเครื่องยนต์ ถอดสายหนีบออกจากตัวแบตเตอรี่ สิ้นสุดการทดสอบ
การแก้ปัญหา (TROUBLESHOOTING)
-ถ้าหน้าจอแสดง HI :
แรงดันไฟของแบตเตอรี่ที่นำมาทดสอบสูงเกินกว่า 15 โวลท์ ไม่สามารถทดสอบได้โดยใชเครื่องรุ่นนี้ (BT111/BT222)
-ถ้าหน้าจอแสดง Lo :
แรงดันไฟของแบตเตอรี่ที่นำมาทดสอบต่ำกว่า 7 โวลท์ ไม่สามารถทดสอบได้โดยใชเครื่องรุ่นนี้ (BT111/BT222) ให้ลองชาร์ทแบตเตอรี่ใหม่ และทดสอบอีกครั้ง ถ้าอ่านได้เหมือนเดิม ควรเปลี่ยนแบตฯทันที
-ถ้าหน้าจอไม่แสดงอะไร
แรงดันไฟของแบตเตอรี่ที่นำมาทดสอบต่ำเกินไปสำหรับเครื่องรุ่น BT111/BT222 ให้ลองชาร์ทแบตฯ และทดสอบอีกครั้ง ถ้ายังแสดงผลเหมือนเดิมควรเปลี่ยนแบตฯ ทันที หรือ มีการสลับการคีบผิดขั่ว ให้เช็คการคีบให้ดีแล้วดูอีกครั้ง
-ถ้าหน้าจอกระพริบ หรือแสดง -------
แรงดันไฟไม่เสถียร ให้ชาร์ทแบตและทดสอบอีกครั้ง ถ้าผลเหมือนเดิม ควรเปลี่ยนแบตฯทันที